แลนด์บริดจ์คือ แค่ใบเบิกทาง เลิกกฎหมาย 19 ฉบับ เอื้อกลุ่มทุนอุตฯ

แลนด์บริดจ์คือ เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ เตรียมข้อมูลเสนอให้นายกรัฐมนตรีทบทวน เพราะเห็นว่าไม่เหมาะสมกับพื้นที่ชุมพร-ระนอง ระบุแค่อยากทำเพื่อเปิดทางให้เลิกกฎหมายอื่นอีก 19 ฉบับ เอื้อกลุ่มทุนอุตสาหกรรม

วันนี้ (23 ม.ค.2567) เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ที่มารวมตัวที่ จ.ระนอง ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันนี้ ระบุว่าการพัฒนาที่เหมาะสมต่อศักยภาพของพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร คือการยกระดับเรื่องธุรกิจภาคประมงและการเกษตรครบวงจร ซึ่งเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและคัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งมีทั้งตัวแทนชาวสวนจาก อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้าน รวมถึงตัวแทนคนไทยพลัดถิ่น จาก อ.เมือง จ.ระนอง รวมตัวเคลื่อนขบวนรถออกจากบริเวณสามแยกราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง เพื่อไปรอพบนายกรัฐมนตรี ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตระนอง

โดยตัวแทนประชาชนบอกว่า โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งไม่มีความคุ้มค่าการลงทุนกระทบต่อสภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตชุมชนเป็นอย่างมาก จึงเสนอให้นายกรัฐมนตรียกเลิกโครงการนี้ แล้วปรับเปลี่ยนไปเป็นโครงการพัฒนา ที่เหมาะสมต่อศักยภาพของพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร คือการยกระดับเรื่องธุรกิจภาคประมงและการเกษตรครบวงจร ซึ่งหากรัฐบาล ที่มาประชุมนอกสถานที่ในวันนี้เห็นชอบ ก็จะช่วยสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง

กรรณิการ์ แพแก้ว เครือข่ายประชาชนสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์คือเป้าหมายลวง แต่การพัฒนาภายใต้ พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC คือเป้าหมายหลักของรัฐบาล เป็นการตั้งข้อสังเกตจากเครือข่ายภาคประชาชนสุราษฎร์ธานี ที่ระบุว่า หากนำเสนอโครงการที่เน้นการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคมก็จะไม่เห็นด้วย จึงนำโครงการแลนด์บริดจ์มาเป็นใบเบิกทาง

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.SEC ที่ได้มีการยกร่างแล้วนั้น เป็นกฎหมายพิเศษ ที่มุ่งเน้นเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรของชาติ โดยขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน และที่สำคัญในร่างกฎหมายฉบับนี้ มีการยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายปกติถึง 19 ฉบับ ทำให้ประชาชนไม่มีหลักประกันในการเข้าถึงทรัพยากรในการดำรงชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนราชการได้เปิดพื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา วิทยาเขตระนอง ให้ประชาชนหลากหลายกลุ่ม ที่ต้องการนำเสนอข้อร้องเรียน ได้รวมตัวเสนอข้อเรียกร้อง ซึ่งมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาพบประชาชน ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการแลนด์บริดจ์ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่แล้วเสร็จ เพื่อรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านอีกครั้ง

ขอขอบคุณบทความจาก : thaipbs